ก.ค.ศ.ปรับเกณฑ์การตัดสินตามหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ

ปรับเกณฑ์ 7

การปรับกฏเกณฑ์การวินิจฉัยตามหลักกฏเกณฑ์แล้วก็กระบวนการ ให้เจ้าหน้าที่รัฐคุณครูและก็เจ้าหน้าที่ด้านการศึกษามีวิทยฐานะและก็เลื่อนวิทยฐานะ (ว ๙ – ว ๑๑ / ๒๕๖๔) แล้วก็แนวปฏิบัติสำหรับเพื่อการนำผลของการประเมินที่ไม่ผ่านตามเกณฑ์การวินิจฉัยเดิมมาตรึกตรองใหม่

ข่าวการศึกษา ได้ระบุหลักเกณฑ์รวมทั้งกรรมวิธีประเมินตำแหน่งแล้วก็วิทยฐานะเจ้าหน้าที่รัฐคุณครู แล้วก็พนักงานด้านการศึกษา ตำแหน่งอาจารย์ ตำแหน่งประธานโรงเรียน รวมทั้งตำแหน่งเล่าเรียนนิเทศก์ ตามหนังสือ ที่ทำการ กรกฎาคมศาสตราจารย์ ที่กระทรวงศึกษาธิการ๐๒๐๖.๓/ว ๙ – ว ๑๑ ระบุวันที่ ๒๐ เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๔ โดยส่งผลใช้บังคับเมื่อวันที่ ๑ ต.ค. ๒๕๖๔ เป็นต้นมา แล้วก็ได้มีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมอีกตามหนังสือที่ทำการ เดือนกรกฎาคมศาสตราจารย์ ที่กระทรวงศึกษาธิการ๐๒๐๖.๓/๔๕๖ ระบุวันที่ ๑๔ มี.ค. ๒๕๖๖ แล้วก็ ที่กระทรวงศึกษาธิการ๐๒๐๖.๓/๖๐๕ ระบุวันที่ ๑๒ เดือนเมษายน ๒๕๖๖ นั้น อาศัยอำนาจตามความลับมาตรา ๑๙ (๔) แล้วก็มาตรา ๕๔ ที่พ.ร.บ.ระเบียบปฏิบัติเจ้าหน้าที่รัฐอาจารย์รวมทั้งเจ้าหน้าที่ด้านการศึกษา พุทธศักราช ๒๕๔๗ เดือนกรกฎาคมศาสตราจารย์ ก็เลยลงความเห็นปรับกฏเกณฑ์การวินิจฉัยตามหลักมาตรฐานแล้วก็กรรมวิธี ให้เจ้าหน้าที่รัฐอาจารย์และก็เจ้าหน้าที่ด้านการศึกษามีวิทยฐานะแล้วก็เลื่อนวิทยฐานะ รวมทั้งระบุแนวปฏิบัติสำหรับเพื่อการนำ ผลของการประเมินที่ไม่ผ่านตามเกณฑ์การวินิจฉัยเดิมมาตรึกตรองใหม่ ดังต่อไปนี้ ๑. ปรับแต่งหลักเกณฑ์การวินิจฉัยในการประเมินเฉพาะด้านที่ ๑ และก็ด้านที่ ๒ ของตำแหน่งอาจารย์ ตำแหน่ง ประธานโรงเรียน แล้วก็ตำแหน่งเรียนรู้นิเทศก์ ทุกวิทยฐานะ โดยกำหนดให้คนที่ผ่านกฏเกณฑ์การประมาณจำเป็นต้องได้คะแนน แต่ละด้าน ดังต่อไปนี้ ด้านที่ ๑ จะต้องได้คะแนนจากผู้ตัดสินไม่น้อยกว่า ๒ ในๆคน ไม่ต่ำลงยิ่งกว่าจำนวนร้อยละ ๖๕ สำหรับ การขอมีวิทยฐานะชำนิชำนาญการ ไม่น้อยกว่าจำนวนร้อยละ ๗๐

ปรับเกณฑ์ 7

สำหรับเพื่อการขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนิชำนาญการพิเศษ ไม่ต่ำลงยิ่งกว่าปริมาณร้อยละ ๗๕ ในการขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะช่ำชอง

ข่าวการศึกษา และไม่ต่ำลงมากยิ่งกว่าปริมาณร้อยละ ๘๐ ในการขอเลื่อนเป็น วิทยฐานะช่ำชองพิเศษ ด้านที่ ๒ จำเป็นต้องได้คะแนนจากผู้ตัดสินไม่น้อยกว่า ๒ ใน ๓ คน ไม่ต่ำยิ่งกว่าจำนวนร้อยละ ๖๕ สำหรับ การขอมีวิทยฐานะช่ำชองการ ไม่น้อยกว่าปริมาณร้อยละ ๗๐ สำหรับเพื่อการขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนิชำนาญการพิเศษ ไม่น้อยกว่า ปริมาณร้อยละ ๗๕ สำหรับเพื่อการขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญ และไม่ต่ำลงยิ่งกว่าจำนวนร้อยละ ๘๐ สำหรับเพื่อการขอเลื่อนเป็น วิทยฐานะชำนิชำนาญพิเศษ ๒. ระบุแนวปฏิบัติสำหรับในการนำผลของการประเมินที่ไม่ผ่านตามเกณฑ์การวินิจฉัยเดิมมาตรึกตรองใหม่ ดังต่อไปนี้ ๒.๑ ในกรณีที่สำนักงานเขตพื้นที่การเล่าเรียนหรือส่วนราชการได้แจ้งความเห็นชอบไม่อนุมัติไปแล้ว ให้สำนักงานเขตพื้นที่การเรียนหรือส่วนราชการทวนผลของการประเมินดังกล่าวมาแล้วข้างต้นตามเกณฑ์การวินิจฉัยใหม่ แล้วแจ้ง ที่ทำการ กรกฎาคมศาสตราจารย์ เฉพาะกรณีผลของการประเมินผ่านตามเกณฑ์การวินิจฉัยใหม่ เพื่อแก้ไขข้อมูลผลของการประเมิน ในระบบ DPA ให้สอดคล้องกับกฏเกณฑ์การวินิจฉัยใหม่ รวมทั้งเสนอ อำเภอกรกฎาคมศาสตราจารย์เขตพื้นที่การเรียน หรือ อำเภอเดือนกรกฎาคมศาสตราจารย์ ที่ กรกฎาคมศาสตราจารย์ ตั้ง สุดแต่กรณี พินิจพิเคราะห์อีกทีหนึ่ง ๒.๒ ในกรณีที่สำนักงานเขตพื้นที่การเล่าเรียนหรือส่วนราชการยังไม่ได้พรีเซนเทชั่นผลของการประเมิน ที่ไม่ผ่านตามเกณฑ์การวินิจฉัยเดิมต่อ อำเภอกรกฎาคมศาสตราจารย์ เขตพื้นที่การศึกษาเล่าเรียน หรือ อำเภอกรกฎาคมศ ที่ เดือนกรกฎาคมศ ตั้ง ให้ทวนผลของการประเมินตามเกณฑ์การวินิจฉัยใหม่ แล้วให้พรีเซนเทชั่น อำเภอเดือนกรกฎาคมศาสตราจารย์เขตพื้นที่การศึกษาเล่าเรียน หรือ อำเภอเดือนกรกฎาคมศาสตราจารย์ ที่ เดือนกรกฎาคมศาสตราจารย์ ตั้ง สุดแต่กรณี เพื่อไตร่ตรองถัดไป

แนะนำข่าวการศึกษา อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย :  คุรุสภา แจงเกณฑ์ทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู 66