เรียนเก่ง จบไว ใช่การพัฒนาอัจฉริยภาพของเด็กที่ถูกวิธีหรือไม่

ข่าวสารเด็กผู้ชายอัจฉริยะคนประเทศอเมริกาวัย 13 ปี เรียนจบระดับปริญญาตรีในสาขาวิชาเอกด้านฟิสิกส์ รวมทั้งสาขาวิชาโททางคณิตสร้างความพอใจมากมายเป็นพิเศษในกลุ่มคนอ่าน อีกทั้งเข้ามาอ่านทางเว็บ รวมทั้งแสดงความเห็นทางเพจเฟซบุ๊ก

ข่าวเด็ก  คนจำนวนไม่น้อยอัศจรรย์ใจในความรู้ความเข้าใจของเด็ก ชื่นชมหน้าที่ครอบครัว ชุมชน แล้วก็ระบบการศึกษาวิจัยที่ช่วยเหลือให้เด็กได้ใช้ประสิทธิภาพอย่างเต็มเปี่ยม ทั้งยังวิภาควิจารณ์ระบบการศึกษาเล่าเรียนไทยว่าไม่อำนวยต่อการช่วยส่งเสริมความเป็นอัจฉริยะของเด็ก ในขณะที่อีกนิดหน่อยกล่าวว่าการพัฒนามนุษย์นั้น จะต้องเป็นหน่วยงาน ไม่ต้องเร่งรีบด ผู้ทำงานด้านการวิวัฒนาการเรียนร่วมกับหน่วยงานทั้งยังภาครัฐและก็เอกชนหลายที่มีความคิดเห็นว่า การศึกษาเรียนรู้ที่ใดซึ่งสามารถจัดระเบียบการศึกษาที่เป็นแบบเฉพาะตัวบุคคลได้ เด็กที่มีความอัจฉริยะในด้านใดด้านหนึ่งก็จะได้รับการช่วยสนับสนุนอย่างตรงประเด็น”แม้กระนั้นในระบบการเรียนของไทยไม่ได้เป็นเช่นนั้น เนื่องจากสถานศึกษาโดยมากยังมิได้มีการผลักดันในด้านนี้ รวมทั้งบิดามารดาซึ่งเป็นคนที่มองเห็นความชำนาญด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษจำต้องนำเด็กออกมากล่อมเกลี้ยงด้วยตัวเอง โดยการจัดการศึกษาเล่าเรียนแบบเฉพาะในบ้านพวกเราเป็นได้ยาก เนื่องจากระบบแบบไทยยังเน้นย้ำการตัดเสื้อโหลอยู่การที่จะวิเคราะห์เด็กว่ามีความอัจฉริยะไหมนั้นจำเป็นต้องเริ่มมาจากครอบครัวแล้วก็อาจารย์ผู้สอน และก็เมื่อสามารถเจาะจงได้แล้ว ผู้ที่มีการเกี่ยวข้องก็จำต้องมาคิดหาวิธีว่าจะสนับสนุน ช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้ถัดไปเช่นไร

22

หากคิดว่าเด็กกลุ่มนี้อยู่ตามหมู่บ้านเล็กๆตามชนบท อาจารย์เองก็มิได้มีทรัพยากรเยอะมากที่จะมาช่วยเด็กที่มีความอัจฉริยะมากมาย

ข่าวเด็ก  แต่ว่าถ้าเกิดมันมีระบบระเบียบที่ทำให้อาจารย์สามารถกำหนดเด็กกลุ่มนี้ขึ้นมาได้ในระดับเขตหรือจังหวัด รวมทั้งนำข้อมูลนั้นส่งไปที่ศูนย์กลาง เพื่อขอให้ดูแลเด็กกลุ่มนี้และก็ปรับปรุงพวกเขาถัดไปได้คงจะดี” “เด็กที่เป็นสายปัดกวาดรางวัลก็จะถูกผลักดันในหัวข้อการติวข้อมูลเตรียมพร้อมเพื่อที่จะไปสอบแข่งขันมากยิ่งกว่า แต่ว่ามิได้มีการปรับปรุงที่จะทำให้เด็กไปได้ถึงความสามารถของเด็กได้จริงๆมองว่าพวกเขาปรารถนาอะไร มากยิ่งกว่าเวทีนี้อยากให้เด็กสอบโดยประมาณไหน” คุณชี้แจงว่าในการศึกษาวิจัยพิเศษจะต้องจัดแจงเรียนรู้แบบเฉพาะตัวบุคคล เพื่อเด็กสามารถพินิจพิจารณาตนเองได้ พร้อมตั้งความมุ่งหมายว่าต้องการจะทำอะไร หรือไปในแนวทางไหน รวมทั้งอาจารย์กับผู้ดูแลจะต้องมานะช่วยเหลือการเล่าเรียนของเด็ก ให้ประสบผลสำเร็จให้ได้ “นอกเหนือจากการปรับปรุงเด็กในด้านวิชาการแล้ว ประเด็นการปรับปรุงเด็กในเรื่องสังคมก็จำเป็นต้องอย่างเดียวกัน” คุณมีความเห็นว่าสถานที่เรียนหลายที่เลือกดึงพรสวรรค์ของเด็กออกมาใช้ในการแข่งขันหรือชิงชัยมากยิ่งกว่าที่จะมาวางแผนศึกษาเล่าเรียนให้เหมาะสมกับความชำนาญของเด็กกรุ๊ปนั้นให้พวกเขาได้ปรับปรุงสมรรถนะได้เต็มกำลัง

แนะนำข่าวเด็ก อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย :  เหนือชั้น! ด.ญ. 5 ขวบ โชว์ลีลา “สโนว์บอร์ด” บนเนินหิมะทำมือที่พ่อแม่เนรมิตให้

กิจกรรมวันเด็ก 66 เชียงใหม่จัดเต็ม ดูดาว ส่องสัตว์ป่า เที่ยวกองบิน 41

กิจกรรมวันเด็ก 66 เชียงใหม่จัดเต็ม ดูดาว ส่องสัตว์ป่า เที่ยวกองบิน 41

เด็ก บรรยากาศงานวันเด็กแห่งชาติ ปี 2566 จ.เชียงใหม่ คึกคักมากเพราะเว้นไป 2 ปี จากสถานการณ์โควิด-19 โดยคึกคักในทุกจุด ทั้งกองบิน 41 สวนสัตว์เชียงใหม่ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์ฯ อ.แม่ริม และหน่วยงานต่างๆ วันที่ 14 ม.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดเชียงใหม่ บรรยากาศภายในกองบิน 41 อำเภอเมือง เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานวันเด็กแห่งชาติ เป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้ปกครองพาเด็กๆ เข้าร่วมงานจำนวนมาก บางรายมาตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึงแม้วันนี้อากาศในช่วงเช้าจะหนาวเย็นกว่าทุกวัน สำหรับปีนี้ กองบิน 41 ได้จัดงานวันเด็กอย่างยิ่งใหญ่ หลังจากการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิด-19 ทำให้งดจัดงานวันเด็กมาหลายปี โดยปีนี้ภายในงานวันเด็กนั้นได้มีกิจกรรมหลากหลาย ทั้งการแจกขนม ของเล่นให้กับเด็ก การแสดงโชว์อาวุธยุทโธปกรณ์ การนำเครื่องบินรบเอฟ-16 และรถถัง รถหุ้มเกราะ มาจอดไว้ให้เด็กๆ ข่าวเด็ก  ได้ขึ้นไปนั่งเล่นและถ่ายรูปคู่เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก นอกจากนี้ยังมีการแสดงโชว์สุนัขแสนรู้จับคนร้ายและดมกลิ่นยาเสพติด พร้อมมีการบินผาดโผนของเครื่องบินรบให้กับเด็กได้ชมด้วย สร้างความตื่นตาให้กับเด็กๆ ที่มาเที่ยวงานเป็นอย่างมากด้าน อุทยานดาราศาสตร์สิรินทร อำเภอแม่ริม ซึ่งมีงานมหกรรมดาราศาสตร์ ประจำปี 2566 ในวันเด็กแห่งชาติ เอาใจนักดาราศาสตร์รุ่นจิ๋ว มาเที่ยวชมนิทรรศการด้านดาราศาสตร์ ท้องฟ้าจำลอง และเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการพัฒนาเทคโนโลยีดาราศาสตร์และวิศวกรรมขั้นสูง นอกจากนี้เด็กๆ ยังได้ร่วมกิจกรรมประดิษฐ์แก้ว กลุ่มดาว DIY, ประดิษฐ์กลุ่มดาวจากหลอดไฟ LED จิ๋ว รวมถึงเล่นเกส์ตอบคำถามชิงรางวัลมากมาย สร้างความตื่นตาตื่นใจและความสุขแก่เด็กๆ ที่มาร่วมกิจกรรม โดยเด็กๆ ทุกคนต่างหอบหิ้วของขวัญวันเด็ก และของรางวัลกลับบ้านไปพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความสุข

แนะนำข่าวเด็ก อ่านเพิ่มเติมคลิกเลย : ซุปเปอร์ฮีโร่บุก รพ.ปากช่องนานา สร้างรอยยิ้มให้คนไข้ตัวน้อยในวันเด็ก 2566

เปิด 3 ข้อหา ออกหมายจับ “ครูแม็ก” อนาจารเด็กพัทลุง ตำรวจเรียกสอบ ผอ.ด้วย

ตำรวจตั้ง 3 ข้อหาออกหมายจับ “ครูแม็ก” บังคับเด็กสำเร็จความใคร่ พร้อมเรียกผู้อำนวยการโรงเรียนสอบ

ข่าวเด็ก คืบหน้าจากกรณี เด็กนักเรียนรุ่นพี่ชั้น ม.3 โรงเรียนดังอ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง เข้าร้องขอความช่วยเหลือ หลังครูชาย วัย 33 ปี บังคับอมนกเขาเด็ก ล่าสุด ที่ สภ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ผู้ปกครอง พาเด็กชาย 5 ราย เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวพัทลุง เข้าร่วมสอบสวนก่อนหน้านี้แล้วและได้นำเด็กที่เสียหาย นำไปคุ้มครองดูที่บ้านพักเด็กและครอบครัวพัทลุง เพื่อความปลอดภัย แล้วรวมทั้งสิ้น 7 รายขณะที่พนักงานสอบสวน เร่งสรุปจำนวนคดี ออกหมายจับ ครูคนดังกล่าว แล้ว โดยตั้ง 3 ข้อ กระทำอนาจารเด็ก อายุ 15 ปี

ออกหมายจับ 12

คดีพรากผู้เยาว์ นำพาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากผู้ปกครองเพื่อกระทำอนาจาร โดยเด็กสมัครใจหรือไม่สมัครใจก็ตาม

ข่าวเด็ก พร้อมกันนั้นทางพนักงานสอบสวน สภ.ป่าพะยอม ได้เรียก ผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อสอบถามที่มาของครูคนดังกล่าวว่ามาได้อย่างไร และใครเป็นนำมาก่อนจะก่อเหตุกระทำอนาจารนักเรียนด้าน นายสมชาย รองเหลือ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่มัธยมศึกษา กล่าวว่าเรื่องดังกล่าวจากการสอบถามและการรายงานเป็นเรื่องจริง ที่มีการกระทำอนาจารเด็ก โดยตนได้รายงานความคืบหน้าไปยังกระทรวงเป็นระยะ ซึ่งสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เกี่ยวกับความปลอดภัยของเด็ก ในฐานะผู้บริหาร ได้ตั้งกรรมสอบวินัย ผู้อำนวยการโรงเรียนแล้วด้วย ว่ามีความบกพร่องหรือไม่ และในส่วนที่ครูผู้ปกครองนักเรียน รวมถึงตัวนักเรียนที่ออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าว ถูกผู้บริหารตำหนิและกดดัน ตนจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายขอให้สบายใจ ใครผิดก็ต้องรับผิด

แนะนำข่าวเด็ก อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย :  ผู้ปกครองแฉเมนู “อาหารกลางวัน” นักเรียนสุดแย่ ล่าสุด ผอ.โรงเรียน ชี้แจงแล้ว

เมื่อ “รูปเด็ก” กลายเป็นคอนเทนต์ออนไลน์ ภัยร้ายของเด็กยุคใหม่

“รูปเด็ก” น่ารักๆ จากคนใกล้ตัวไปจนถึง “ลูกคนดัง” ที่พ่อแม่ยุคนี้นิยมโพสต์ ลงสื่อออนไลน์ทุกรูปแบบ แม้หลายคนมองว่าเป็นการแชร์ความน่ารักของเด็กๆ และบันทึกความทรงจำ แต่ความจริงอาจส่งผลร้ายต่อตัวเด็กมากกว่าที่คิด

ข่าวเด็ก ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรือ ติ๊กต็อก ปัจจุบันเรามักจะได้เห็นภาพหรือคลิปไปจนถึงการไลฟ์สดของเด็กน้อยน่ารักในหลากหลายอิริยาบถ ทั้งลูกหลานของคนใกล้ตัว หรือบรรดา “ลูกคนดัง” ทั้งลูกดารา ลูกศิลปินต่างๆ ในสังคม ซึ่งบางคนถึงกับสร้างแอคเคาท์สื่อสังคมโซเชียลให้ลูกโดยเฉพาะเลยทีเดียว สิ่งเหล่านี้เหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาในสังคม เนื่องจากเราเห็นจนชินตา เผลอๆ เราเองก็เคยลงรูปลูกหลานในโซเชียลเหมือนกันแม้ว่าเรื่องเหล่านี้จะมีข้อดี เช่น ได้แบ่งปันความน่ารักให้ญาติ และเพื่อนๆ มีโฆษณาติดต่อให้เด็กรีวิวสินค้าผ่านโซเชียล ได้เป็นศิลปินเด็ก เป็นต้นแต่ข้อเสียของการให้เด็กมีตัวตนในโลกออนไลน์ตั้งแต่อายุยังน้อย (บางคนตั้งแต่เกิดได้ไม่กี่นาที!) ก็เป็นเรื่องที่พ่อแม่ หรือผู้ปกครองยุคนี้ต้องรู้! และจำเป็นจะต้องศึกษาก่อนตัดสินใจเปิดบัญชีโซเชียลมีเดียให้กับลูกหลานที่ยังไม่รู้ความ รวมไปถึงการไลฟ์สดหรือการลงภาพลูกโดยที่ลูกไม่สามารถปฏิเสธได้ รู้จัก “Sharenting” การเลี้ยงลูก-หลาน ผ่านโซเชียลมีเดีย คำว่า “Sharenting” อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูคนไทยกันสักเท่าไรนัก โดยคำนี้มาจากคำว่า Share รวมกับคำว่า Parenting หมายถึง “การเลี้ยงลูกผ่านโซเชียลมีเดีย” ใช้เรียกพฤติกรรมของผู้ปกครองที่มักโพสต์รูป หรือวิดีโอเด็กในสถานการณ์ต่างๆ ลงบนโซเชียลมีเดียช่องทางต่างๆ โดยในต่างประเทศมีการวิจัย และคำเตือนจากนักจิตวิทยาเด็ก ให้งดทำการโพสต์ดังกล่าว มาแล้วหลายครั้งแล้วก่อนหน้านี้ เพราะจะทำให้เด็กที่เติบโตมาโดยไม่มีความเป็นส่วนตัว เด็กจะขาดความเข้าใจในเรื่องความยินยอม และสิทธิในข้อมูลของตนเอง

กลายเป็นคอนเทนต์ 12

นอกจากนี้ยังส่งผลถึงการขาดความพึงพอใจในชีวิต เพราะถูกตัดสินความสำเร็จ หรือความผิดต่างๆ ผ่านการโพสต์ และการบอกเล่าของพ่อแม่ ในโซเชียลมีเดียโดยบุคคลภายนอกครอบครัว

ข่าวเด็ก ในทางตรงกันข้าม เด็กที่โตมาโดยที่พ่อแม่ไม่เปิดเผยภาพ หรือเรื่องราวส่วนตัวบนโลกออนไลน์ พวกเขาจะมีความเข้าใจสิทธิของตนเอง เข้าใจเรื่องความเป็นอยู่ที่ดี และมีความพึงพอใจในชีวิตมากกว่า เพราะได้เติบโต และสร้างอัตลักษณ์ตัวตน และได้ค้นหาเพศสภาพของตัวเองในแบบที่ควรเป็น โดยไม่ถูกยึดโยงกับความเห็นหรือมุมมองจากคนนอกที่มองเข้ามา โพสต์รูปลูก กดเช็กอินโรงเรียน ระวัง! พวกใคร่เด็กตามรอย อีกทั้งประเด็นสำคัญ และส่งผลเสียต่อเด็กโดยตรงก็คือ การโพสต์รูปเด็กลงสื่อออนไลน์อาจจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้เด็กได้เจอกับกลุ่มคน “ใคร่เด็ก (Pedophile)” และอาจนำไปสู่อันตรายอย่างที่พ่อแม่อาจคาดไม่ถึง เช่น มีคนร้ายไปดักรอเด็กที่โรงเรียน เพราะรู้เวลาเข้าเรียน และเลิกเรียน รวมถึงบุคคลอันตรายเหล่านี้สามารถรับรู้ที่ตั้งของโรงเรียนได้ง่ายๆ จากการที่ผู้ปกครองโพสต์ภาพพร้อมเช็กอินที่ตั้งโรงเรียนลงสื่อโซเชียล นั่นเอง จึงเป็นที่มาของการ “ลักพาตัวเด็ก” ตามที่เราเห็นได้บ่อยครั้งในข่าวรายวัน ปัจจุบันนี้การเข้าถึงสื่อออนไลน์ต่างๆ ถือว่าเป็นเรื่องง่ายที่คนส่วนใหญ่ทำได้ ดังนั้นพ่อแม่ยุคใหม่บางส่วนก็อยากจะลงรูปหรือวิดีโอน่ารักๆ ของลูกเพื่อเก็บไว้ดูภายหลัง รวมถึงแบ่งปันให้เพื่อน และญาติๆ ที่ไม่ได้มีโอกาสเจอกันบ่อยได้เห็นความน่ารักนี้ด้วย แต่พฤติกรรมดังกล่าวก็เปรียบเสมือนดาบสองคม ตามที่อธิบายไปข้างต้น ดังนั้น เราอาจจะลดเวลาเลี้ยงลูกในโซเชียลมาอยู่กับความเป็นจริงให้มากขึ้น เพื่อผลดีต่อตัวเด็กเอง

แนะนำข่าวเด็ก อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : คลิปหลุดมูลนิธิดังทำร้ายเด็ก “ครูยุ่น” อ้างแค่ลงโทษ ล่าสุดเด็กขอลาออกเกินครึ่ง

ระทึกฝ่าราตรีหาอาเหว่เด็กพิเศษล่องหน เจอร่องน้ำแค่ตาตุ่มไม่มีทางจมแต่คงหนาวมาก

กรณี ด.ช.ชนาธิป เชอมือ หรือ อาเหว่ อายุ 2 ปี หายไปจากที่บ้าน

ข่าวเด็ก โดยพ่อและแม่ได้เดินทางไปเก็บกาแฟที่ไร่กาแฟ ฝากลูกชายรวม 3 คนช่วยดูแล ส่วน ด.ช.นาธิป เป็นคนสุดท้อง ไว้กับนางหมี่ซุ้ม เชอหมื่อ อายุ 62 ปี เป็นยาย ยายเดินไปรับหลานอีก 2 คน ที่ไปเรียนหนังสือที่อยู่ห่างจากบ้านเพียง 300 เมตร เมื่อรับหลานทั้ง 2 คน ยายจึงเดินทางกลับมาบ้านทันที ไม่พบตัวน้องชนาธิป ขณะนั้นยายจึงได้ตามหาตัวน้อง พร้อมกับสอบถามเพื่อนบ้าน และบรรดาญาติ ๆ ต่างก็แจ้งว่าไม่เห็นน้องเลย

หลังจากเล่นกับหมาแล้วหายไปชาวบ้านที่ร่วมออกค้นหาเด็ก

ข่าวเด็ก ระบุว่า จะเดินออกค้นหาในรัศมีระยะทางห่าวออกไป 2 กม. เพราะสงสารเด็กและครอบครัว ซึ่งสภาพแวดล้อมทางเดินลำบากชาวบ้านช่วยกันระดมการค้นหาเด็กอย่างเต็มที่ในป่าใกล้เคียง ยังไร้วี่แววว่าจะพบ ในขณะที่พ่อแม่และญาติก็ตั้งความหวังว่าจะได้เจอเด็ก ทั้งไหว้ผีป่าผีเขาตามความเชื่อของชนเผ่าอาข่า โดยมีความหวังว่าจะได้พบเด็กได้กลับมาสู่อ้อมกอดของพ่อแม่เหมือนเดิมโดยบริเวณหมู่บ้านนี้ก็เป็นป่าล้อมรอบ เมื่อเช้าที่ผ่านมาก็ตามหาแล้วแต่ยังไม่พบเบาะแส แต่คาดว่าจหลงไปในเส้นทางนั้น อีกทั้งที่ผ่านมาน้องติดแม่มาก ไม่ค่อยเดินออกไปเล่นที่ไหนไกล

แนะนำข่าวเด็ก อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลยบีบหัวใจ เด็กชาย 9 ขวบ หนีออกจากบ้าน สะดุดตาพลเมืองดี เพราะแบกเพื่อนรักมาด้วย