“อาคม” ย้ำชัดฐานะการเงินแข็งแกร่ง

“อาคม” ย้ำชัดฐานะการเงินแข็งแกร่ง

การเงิน นายคาถาอาคม เพิ่มเติมพิทยาประเสริฐ รัฐมนตรีว่าการคลังเก็บของ เผยออกมาว่า การปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของสศค. (สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเหลือ 3.6% เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว รวมทั้งการส่งออกของไทยที่ลดน้อยลงติดลบ 0.5% แม้กระนั้นมีภาคการท่องเที่ยวและก็บริการมาช่วยประคองขับเศรษฐกิจให้ฟื้น โดยคาดเดาตอนครึ่งปีข้างหลัง ส่งออกจะเริ่มดียิ่งขึ้น เนื่องมาจากผู้ซื้อต่างแดนเริ่มกลับมาซื้อผลิตภัณฑ์จากไทยมากขึ้น ดังนี้ ตนได้ติดตามการปรับขึ้นอัตราค่าดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟดที่ส่งสัญญาณปรับขึ้น โดยหมายกำหนดการว่าปีนี้จะสัมมนาเฟด ครั้ง ปัจจุบันนี้สัมมนาไป ครั้ง การปรับขึ้นดอกของเฟด ข่าวการเงิน เป็นด้ามจับตามองทั่วโลก ปัจจุบันนี้อยู่ที่ 4% การปรับดอกขึ้น เพื่อกดอัตราเงินเฟ้อลง ถึง เดือนที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาประสบเจอกับปัญหาสถาบันการเงิน ที่ และก็สถาบันการเงินในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (เครดิตสวิสมีปัญหา แต่ว่าหลายข้างก็ยังคาดว่าเฟดมีท่วงท่าปรับขึ้นดอกไปเรื่อยซึ่งจะมีผลต่อดอกในตลาดทั่วทั้งโลกด้วย มั่นใจว่าเฟดคงจะจับตาปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นการป้องกันและยังเป็นการไม่ให้กำเนิดวิกฤติตอกย้ำขึ้นมาอีก เวลาที่เมืองไทย สถาบันการเงินมีเสถียรภาพที่แข็งแกร่ง มีเงินสำรองสูง มีทุนสำรองระหว่างชาติในระดับที่พอเพียง ฐานะการเงินมีเสถียรภาพ ก็เลยปราศจากความเป็นห่วงใดๆก็ตาม

แนะนำข่าวการเงิน อ่านเพิ่มเติมคลิกเลย : ออมสินปล่อยกู้ติดตั้งและซื้ออุปกรณ์โซลาร์ลดค่าไฟฟ้า

ttb ชูฟีเจอร์ My Car ในแอปฯ ttb touch เช็กยอดเงิน Easy Pass ได้ทันที

ttb ชูฟีเจอร์ My Car ในแอปฯ ttb touch เช็กยอดเงิน Easy Pass ได้ทันที

การเงิน ttb พัฒนาฟีเจอร์ My Car ใน แอปพลิเคชัน ttb touch ชูจุดเด่นเช็กยอดเงินในบัตร Easy Pass ได้ทันที นายนริศ อารักษ์สกุลวงศ์ หัวหน้าทีมดิจิทัล ทีทีบี สปาร์ค หรือ ttb spark กล่าว่า เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มที่มีรถและใช้รถเป็นประจำ แอปฯ ttb touch จึงได้เพิ่มฟีเจอร์ My Car ภายใต้แนวคิด Humanized Digital Banking ดิจิทัลที่เป็นมิตร รู้จักและรู้ใจลูกค้า ที่จะเป็นเสมือนเลขาส่วนตัวคอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกทุกเรื่องเกี่ยวกับรถ ทั้งนี้ ลูกค้าที่ใช้แอปฯ ttb touch สามารถทำธุรกรรมเกี่ยวกับรถยนต์ผ่านฟีเจอร์ My Car ได้อย่างง่ายดายในหลายๆ เรื่อง เช่น เช็กยอดเงินในบัตร Easy Pass ซึ่งธนาคารถือเป็นรายแรกของไทยที่ให้บริการดังกล่าว นอกจากนี้ ยังสามารถเช็กราคาน้ำมันประจำวันแบบเรียลไทม์ และข้อความเตือนไม่ให้พลาดในวันที่น้ำมันประกาศลดราคา ซื้อ หรือต่อพ.ร.บ.และประกันรถยนต์ จ่ายบิลสินเชื่อรถ ข่าวการเงิน ชำระค่าปรับจราจร นอกจากนี้ My Car ยังช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินด้วยบริการสินเชื่อรถแลกเงิน พร้อมบริการประเมินราคารถด้วยราคากลางที่ได้มาตรฐานจากธนาคารก่อนประกาศขาย ครอบคลุมถึงการขายรถ รวมถึงการเปิดประมูลผ่านลานประมูล หรือเปิดประมูลออนไลน์บนเว็บไซต์ ที่สามารถกำหนดราคาประมูลขั้นต่ำได้ด้วยตัวเอง สำหรับฟีเจอร์ My Car สามารถตอบโจทย์ทุกเรื่องรถให้จบในแอปฯ เดียวได้อย่างแท้จริง ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความรวดเร็วในทุกธุรกรรมที่เกี่ยวกับรถ และยังมีโปรโมชันอีกมากมายที่ทางแอปฯ ttb touch จะมอบให้กับผู้ใช้ My Car เป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นของสมนาคุณจากการจ่ายบิลสินเชื่อรถยนต์ หรือสิทธิประโยชน์พิเศษจากการเติมน้ำมัน ฯลฯ ซึ่งสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกง่ายดายและใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที บนมือถือสมาร์ทโฟน ซึ่งปัจจุบันมีรถกว่า 420,000 คัน บนแพลตฟอร์ม My Car

แนะนำข่าวการเงิน อ่านเพิ่มเติมคลิกเลย : ธนาคารแห่งประเทศไทยชี้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวทุกด้าน

ตลาดสกุลเงินเอเชียร่วง พาวเวลล์แย้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ

ตลาดสกุลเงินเอเชียร่วง พาวเวลล์แย้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ

การเงิน ค่าเงินทวีปเอเชียจำนวนมากตกลงในวันพฤหัสบดี เนื่องจากว่าความเห็นด้านการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟดที่ทำให้เห็นว่าอัตราค่าดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกา มีลักษณะท่าทางที่จะยังคงสูงมากขึ้นเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน เวลาที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอจากจีนก็ก่อให้เกิดผลเสียต่อความเชื่อมั่นและมั่นใจในภูมิภาคนี้ด้วยเหมือนกัน ค่าเงิน หยวนจีน ลดน้อยลง 0.2% แล้วก็จำหน่ายใกล้ระดับค่อนข้างต่ำสุดในรอบ 15 ปีภายหลังจาก ดรรชนี PMI ภาคการบริการของจีนจากสถาบัน Caixin ชี้ให้เห็นว่าภาคบริการของประเทศหดตัวลงมากกว่าที่คาดหมายเอาไว้ในต.ค. เพราะเหตุว่าการหยุดชะงักที่เกี่ยวกับมาตรการควบคุมกับวัววิดยังคงเดินต่อไป ข้อมูลดังกล่าวมาแล้วข้างต้นยังช่วยลดการเก็งกำไรเกี่ยวกับแนวทางของจีนที่จะลดการล็อกดาวน์ โดยจังหวะที่จีนจะกลับมาเปิดกระทำการอีกรอบนั้นได้รับแรงหนุนจากข่าวโคมลอยที่แพร่ไปบนเครือข่ายสังคม รวมทั้งได้หนุนสกุลเงินทวีปเอเชียในอาทิตย์นี้ ด้วยเหตุว่าจีนมีสถานะเป็นจุดหมายปลายทางกิจการค้าที่สำคัญสำหรับภูมิภาคนี้ อย่างไรก็แล้วแต่ข้าราชการของเมืองมิได้ให้ความคิดเห็นอะไรก็ตามเกี่ยวกับข่าวซุบซิบทางโซเชียลเน็ตเวิร์คว่าประเทศจะยกเลิกหลักการปราศจากวัววิดข้างในมีนาคม 2023 ข่าวการเงิน สกุลเงินทวีปเอเชียอื่นๆต่ำลง โดยเงิน บาทไทย รวมทั้ง ริงกิตมาเลเซีย ตกลงราว 0.2% ต่อสกุลเงิน ค่าเงิน เยน มากขึ้น 0.4% สำหรับในการซื้อขายแลกเปลี่ยนตอนวันหยุดเทศกาล ดรรชนีดอลลาร์ แล้วก็ ดรรชนีดอลลาร์ฟิวเจอร์ส มากขึ้น 0.5% ภายหลังที่ ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ปรับขึ้นอัตราค่าดอกเบี้ย 75 จุดรากฐาน (bps) ในวันพุธ พบโรม พาเวลล์ ประธานเฟด ไม่ยอมรับต่อการคาดคะเนว่าธนาคารกลางมีแผนในการจะหยุดการปรับขึ้นอัตราค่าดอกเบี้ยชั่วครั้งคราว ข่าวสารการคลัง รวมทั้งบอกว่าเฟดจะอาจอัตราค่าดอกเบี้ยไว้นานเกินกว่าที่คิดไว้ในตอนแรก พาเวลล์บอกว่าอัตราของสหรัฐอเมริกา ซึ่งในขณะนี้อยู่ที่ระดับสูงสุดตั้งแต่แมื่อวิกฤตการคลังในปี 2008 จะพุ่งขึ้นสูงสุดที่ระดับที่สูงกว่าที่คาดเอาไว้ในตอนต้น เนื่องมาจาก อัตราเงินเฟ้อ ยังคงอยู่สูง ในตอนที่ประธานเฟดยังได้เอ๋ยถึงแนวโน้มที่จะมีการปรับอัตราค่าดอกเบี้ยขนาดเล็กในอนาคตแม้กระนั้นตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยการเสี่ยงโดยมากก็ตรงลงจากจุดยืนของเขา อย่างไรก็ดี ในตอนนี้เทรดเดอร์โดยมากกำลังกำหนดราคาในช่องทางการปรับขึ้นอัตราค่าดอกเบี้ยที่ 50 จุดรากฐานในธ.ค. ผ่านมาฝั่ง ดอลลาร์ประเทศออสเตรเลีย ที่ยังคงรักษาแนวโน้ม ด้วยการเพิ่มขึ้น 0.3% จากข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีทำให้เห็นว่า ดุลการค้า ของประเทศออสเตรเลียมากขึ้นมากเกินคาดในกันยายน โดยส่วนมากได้แรงหนุนจากการส่งออกเชื้อเพลิงที่อดทน

แนะนำข่าวการเงิน อ่านเพิ่มเติมคลิกเลย : ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่า รับแนวโน้มเฟดขึ้นดอกเบี้ยอีก

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวกสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี หุ้นแบงก์หนุนตลาด

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวกสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี หุ้นแบงก์หนุนตลาด

การเงิน ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (14 เม.ย.) สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีและปิดในแดนบวกเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการเชิงบวกของธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐ และจากความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 466.91 จุด เพิ่มขึ้น 2.7 จุด หรือ +0.58% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,519.61 จุด เพิ่มขึ้น 38.78 จุด หรือ +0.52%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,807.50 จุด เพิ่มขึ้น 78.04 จุด หรือ +0.50% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,871.91 จุด เพิ่มขึ้น 28.53 จุด หรือ +0.36% ดัชนี STOXX 600 แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2565 และปรับตัวขึ้น 1.7% ในรอบสัปดาห์นี้ โดยเป็นการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์ติดต่อกันนานที่สุดในปีนี้ ส่วนดัชนี STOXX 50 ของหุ้นบลูชิพ 50 ตัว ปิดบวก 0.6% แตะระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี ข่าวการเงิน  ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นในเดือนเม.ย. โดยได้แรงหนุนจากสัญญาณเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงในสหรัฐ และแนวโน้มที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจยูโรโซน หุ้นกลุ่มธนาคารยุโรปปรับตัวขึ้นมากที่สุดในดัชนี STOXX 600 โดยพุ่งขึ้น 3.0% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน หลังธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกที่สดใส หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ปรับตัวขึ้น 1.8% ปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดยังมาจากการที่ธนาคารกลางสิงคโปร์ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ราคาค้าส่งของเยอรมนี เพิ่มขึ้นในเดือนมี.ค.ในอัตราที่ชะลอลงเมื่อเทียบเป็นรายปี แต่เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับเดือนก.พ. การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสแรกช่วยหนุนหุ้นรายตัว อาทิ หุ้นแอร์เมส บวก 1.5% แตะระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์หลังเปิดเผยยอดขายไตรมาสแรกสูงเกินคาด โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากจีน หุ้นทอมทอมซึ่งเป็นบริษัทจัดทำแผนที่และระบบนำทางของเนเธอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 7.3% หลังรายงานผลกำไรไตรมาสแรกสูงเกินคาด

แนะนำข่าวการเงิน อ่านเพิ่มสเติมคลิกเลย : ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่า รับแนวโน้มเฟดขึ้นดอกเบี้ยอีก

ดอลลาร์ลดแรงบวก ตลาดรอจับตารายงานการประชุมเฟด

ดอลลาร์ลดแรงบวก ตลาดรอจับตารายงานการประชุมเฟด

การเงิน ดอลลาร์ลดแรงบวก ตลาดรอจับตารายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. ในวันพุธที่ 22 ก.พ.นี้ รวมถึงถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (20/2) ที่ระดับ 34.44/455 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (17/2) ที่ระดับ 34.58/59 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ จากแรงขายทำกำไรระยะสั้น หลังบาทอ่อนค่าแตะระดับ 34.60 บาท/ดอลลาร์ ช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ (17/2) ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบเดือนครึ่ง ขณะที่ดอลลาร์ลดแรงบวก หลังจากได้รับแรงหนุนในช่วงก่อนหน้า หลังจากที่โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 3 ครั้งในปีนี้ สู่ระดับสูงสุดที่ 5.25-5.50% อีกทั้งนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือน มี.ค. ข่าวการเงิน โดยสอดคล้องกับ FewWatch Tool ของ CME Group ซึ่งบ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 3 ครั้งในการประชุมเดือน มี.ค., พ.ค. และ มิ.ย. สู่ระดับสูงสุดที่ 5.25-5.50% และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าว ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือน ธ.ค. นอกจากนี้จากตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงเกินคาด และตัวเลขตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ได้เป็นปัจจัยหนุนให้ดอลลาร์สหรัฐให้ปรับตัวแข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (16/2) กระทรวงแรงงานสหรัฐมีการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนมกราคม ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ประจำเดือน ม.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าที่ตลาดคาดการณ์

แนะนำข่าวการเงิน อ่านเพิ่มเติมคลิกเลย : JASIF จ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.23 บาทต่อหน่วย 20 มี.ค. 66

ดอลลาร์แข็งค่า หลังงบการค้าสหรัฐขาดดุลมากขึ้น กังวลเศรษฐกิจซบเซา

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า หลังงบการค้าสหรัฐขาดดุลมากขึ้น ท่ามกลางความกังวลเศรษฐกิจซบเซา จับตาผลประชุมเฟดและแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางเช้าวันที่ 2 ก.พ.นี้

ข่าวการเงิน  ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพรายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2565 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (30/01) ที่ระดับ 32.76/77 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (27/1) ที่ระดับ 32.83/84 บาท/ดอลลาร์สหรัฐเงินบาทแข็งค่าขึ้นหลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐแสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวลงของเงินเฟ้อและการใช้จ่ายซึ่งปรับลดลง 0.2% และตั้งคำถามเกี่ยวกับความจำเป็นที่ธนาคารกลางสหรัฐจำเป็นต้องคงดอกเบี้ยสูงไว้นานถึงสิ้นปี ซึ่งนักลงทุนในตลาดคาดว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยลงในช่วงหลังของปี 2023 ถึงแม้สกุลเงินดอลลาร์จะปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักเช่นยูโรและเยน แต่สกุลเงินบาทนั้นแข็งค่าขึ้นมาจากจำนวนการลงทุนจากต่างประเทศที่เข้ามาในไทยและการเปิดประเทศของจีนซึ่งเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาไทยมากขึ้น จึงทำให้สกุลเงินบาทนั้นมีความต้องการสูงขึ้นและนักลงทุนคาดว่าหากเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ประเทศไทยจะมีแรงสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวมากกว่าประเทศเพื่อนบ้านในโซนเอเชีย โดยที่นักลงทุนจะจับตามองผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในเช้าวันพฤหัสที่ 2 และการแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางโดยคาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อและการจ้างงานมีการปรับตัวลงตามคาด อาจจะทำให้ธนาคารกลางสามารถปรับลดดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปีได้และสถานการณ์ดอกเบี้ยสูงจะไม่นำพามาสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 32.69-32.79 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 32.73/74 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า 2

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร เปิดตลาดเช้าวันนี้ (30/01) ที่ระดับ 1.0/65/69 ดอลลาร์สหรัฐ/

ข่าวการเงิน  ยูโรอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (27/1) ที่ระดับ 1.0886/889 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร สกุลเงินยูโรโดยรวมแล้วยังคาดว่ามีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นเนื่องจากนักลงทุนยังมองว่าทางธนาคารกลางยุโรปยังจำเป็นต้องปรับดอกเบี้ยสูงขึ้น 0.5%ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐเริ่มชะลอตัวการปรับดอกเบี้ยขึ้นหลังจากเงินเฟ้อในประเทศเริ่มลดตัวลงโดยคาดการว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศคู่ค้า เช่น อเมริกาและจีนจะส่งผลให้นักลงทุนมีความกล้าเข้ามาถือสินทรัพย์เสี่ยงในสกุลเงินอื่นนอกเหนือจากดอลลาร์ ระหว่างวันค่าเงินยูโร เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.0851-1.0889 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.0880-1.0882 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโรสำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (30/01) ที่ระดับ 130.18/20 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (27/1) ที่ระดับ 129.79/82 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยหลักมาจากตัวเลขทางเศรษฐกิจจากสหรัฐที่แสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจและทำให้นักลงทุนหวังว่าทางธนาคารจะเปลี่ยนนโยบายเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในช่วงท้ายปีของ 2023 เลยทำให้ตะกร้ามูลค่าของดอลลาร์มีการสะท้อนขึ้นจากระดับ 101.6โดยคาดว่านักลงทุนยังคงคาดหวังว่าทางธนาคารกลางญี่ปุ่นจะส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงนโยบายในการประชุมครั้งต่อไป เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อในเมืองกรุงโตเกียวได้ออกมาสูงสุดรอบ 30 ปี ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 129.18-130.29 เยน/ดอลลาร์และปิดตลาดที่ระดับ 130.12-130.14 เยน/ดอลลาร์สหรัฐตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการว่างงานของสหรัฐ (1/2) ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (2/2), ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (2/2), ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (2/2), ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ (3/2), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการของสหรัฐ (3/2)สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -10/-9.75 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -10-7.6 สตางค์/ดดอลลาร์สหรัฐ

แนะนำข่าวการเงิน อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : แบงก์กรุงเทพ ใจป้ำ จ่ายเงินพิเศษ คนละ 1 เดือน+20,000 บาท

หุ้นเอเชียปรับตัวขึ้น ตลาดคาดเฟดจะชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ หลังจากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวเกินคาดนั้นส่งผลให้มีแนวโน้มว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในขนาดที่เล็กลง

การเงิน ขณะที่การยกเลิกมาตรการควบคุมที่เกี่ยวข้องกับโควิดของฮ่องกงบางส่วน ส่งผลให้ตลาดท้องถิ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด ดัชนี ฮั่งเส็ง ทำผลงานดีที่สุดในเอเชียเมื่อวันศุกร์ โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 7% หลังจากที่ฮ่องกงกล่าวว่าจะผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับโควิดสำหรับผู้อยู่อาศัยและนักเดินทางต่างชาติ การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการเก็งกำไรอย่างกว้างขวางว่าทางการจีนอาจจะตัดสินใจคล้ายคลึงกัน ทำให้เกิดการแรลลี่ขึ้นในตลาดหุ้นในประเทศ ดัชนีหุ้นบลูชิพ CSI 300 พุ่งขึ้น 3.4% ในขณะที่ดัชนี เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต เพิ่มขึ้น 2.4% แต่ทางการจีนได้ปฏิเสธที่จะยกเลิกนโยบายควบคุมโรคโควิด19 ที่เคร่งครัดเมื่อต้นสัปดาห์นี้ เนื่องจากจีนยังต้องต่อสู้กับการระบาดครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม สิ่งนี้ไม่ได้กีดกันนักลงทุนจากการซ้อนซื้อหุ้นจีนซึ่งมีการซื้อขายในราคาที่ลดลงมากเป็นพิเศษเช่นกัน หุ้นเอเชียอื่น ๆ ปรับตัวขึ้น โดยตลาดหุ้นที่มีบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ได้กำไรสูงสุดเนื่องจาก ข้อมูลเงินเฟ้อ ของสหรัฐฯ อ่อนตัวกว่าที่คาดไว้ ตอกย้ำความคาดหมายว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่ช้าลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ดัชนี Taiwan Weighted พุ่งขึ้น 3.7% และยังได้ประโยชน์จากความหวังที่ประเทศเปิดอีกครั้งขณะที่ดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 3.4% ดัชนี นิคเคอิ 225 ของญี่ปุ่นก็เพิ่มขึ้น 3% ในขณะที่ดัชนีหุ้นบลูชิพ Nifty 50 ของอินเดียเพิ่มขึ้น 1.6% ขณะนี้ตลาดกำลังกำหนดราคาใน ความเป็นไปได้มากกว่า 80% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 50 จุดพื้นฐานในเดือนธันวาคม ข่าวการเงิน เนื่องจากนโยบายทางการเงินที่เข้มงวดของเฟดเริ่มเห็นผล แนวคิดนี้ได้รับการส่งเสริมโดยสมาชิกเฟดจำนวนหนึ่งในสัปดาห์นี้ พวกเขากล่าวว่า พวกเขาสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเล็กน้อยเพื่อปกป้องการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังคงสูงกว่าเป้าหมายประจำปีของเฟดที่ 2% ธนาคารกลางจึงคาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าจะเห็นสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังผ่อนคลาย ถึงกระนั้น ตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยความเสี่ยงส่วนใหญ่ได้ปรับตัวขึ้นจากแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้นช้าลง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นถือเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยความเสี่ยงในปีนี้ ดัชนีในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทก็ปรับตัวขึ้นในชั่วข้ามคืนเช่นกัน โดยมีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขึ้นนำ ในบรรดาตลาดอื่น ๆ ดัชนี ASX 200 ของออสเตรเลียพุ่งขึ้น 2.8% โดยหุ้นกลุ่มเหมืองขนาดใหญ่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากความหวังที่จะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งในจีน ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขา

แนะนำข่าวการเงิน อ่านเพิ่มเติมคลิกเลย : ดอลลาร์รีบาวด์ ความเห็นของผู้ว่าการวอลเลอร์ยังคงมีท่าทีแข็งกร้าว